เมนูดอกไม้กินได้ ชาดอกกระดุมทอง..?

ชาดอกไม้ ชาดอกกระดุมทอง เป็นชาสมุนไพรเพื่อสุขภาพ ช่วยควบคุมป้องกันการเกิดโรคต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับ ระดับน้ำตาลในเลือด เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน

ชาดอกกระดุมทอง

ดอกกระดุมทอง พืชคลุมดิน ที่กินได้ และยังมีสรรพคุณเป็นพืชสมุนไพร เกี่ยวกับ ระดับน้ำตาลในเลือด โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน เป็นต้น เรามาดื่ม "ชาดอกกระดุมทอง" กันเถอะ

เมนูดอกไม้กินได้ ตอน.. เรามาดื่ม “ชาดอกกระดุมทอง” กันเถอะ

เอ๊ะ!…คุณลุงคนนั้น กำลังทำอะไรกับสวนกระดุมทอง ของมิสเออยู่นะ ความคิดนี้เกิดขึ้น ขณะมิสเอกำลังจะเดินไปเอารถที่จอดอยู่ด้านหลังของโรงเรียน

ที่ว่าสวนกระดุมทองของมิสเอ ก็เพราะเมื่อหลายปีก่อน มีการทำสวนของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ ตอนนั้นมิสเอเป็นคนสั่งต้นไม้มาตกแต่งสวนคณิตศาสตร์ ในฐานะที่รู้เรื่องต้นไม้มากที่สุด

ที่จริงก็ไม่ได้รู้อะไรมากนักหรอกค่ะ เพียงแต่ตอนที่เรากำลังประชุมเรื่องหาพืชคลุมดินมาปลูกในสวน

มีแต่คนเสนอกัน แต่แพรเซี่ยงไฮ้กับคุณนายตื่นสาย ซึ่งมิสเอพูดว่า มันมีอีกตั้งหลายต้น ที่น่าจะใช้ได้ แปลก และแตกต่างจากสวนอื่นๆด้วย เช่น ว่านกาบหอย เศรษฐีเรือนนอก ถั่วบราซิล ฟ้าประดิษฐ์ หรือ กระดุมทอง ฯลฯ

แต่ละอย่างที่พูดถึง เพื่อนครูคนอื่นๆ ถึงกับถามรายละเอียดกันยกใหญ่ ว่าแต่ละต้นมันเป็นอย่างไร? มิสเอถึงกับยืดอก ยิ้มรับ 555 มันคือความรู้เท่าหางอึ่ง แต่ก็มากพอที่จะยืดได้ ก็ครูคณิตศาสตร์ส่วนมากเขาจะเก่งแต่วิชาการ แต่มิสเอ ช่างแตกต่างกับเขาเสียจริงๆ

สรุปก็คือ ให้น้องเอเป็นคนสั่งต้นไม้ก็แล้วกัน (ตอนนั้นเพิ่งเข้ามาทำงานคะ เป็นน้อง…มิสเอก็เคยเป็นน้องนะ..เออ) แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่ละสวนของคนอื่นๆ ก็สั่งกันแต่แพรเซี่ยงไฮ้ คุณนายตื่นสาย ชบาด่างและโกสน มิสเอเลยคิดเอาเองว่า “ดอกกระดุมทอง” ที่มีอยู่ในโรงเรียนนี้ เป็นของที่มิสเอนำเข้ามา

ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ ก็ยิ่งเห็นร่องรอยของการกระชากทั้งรากทั้งโคน โอ้แม่เจ้า…ต้นกระดุมทองของมิสเอ มันจะพากันตกใจตายกันหมดไหมนะ…แหละแล้ววิญญาณผู้ปกป้องเข้าสิง มิสเอก็เดินเข้าไปถามคุณลุงคนนั้นว่า

“ขอโทษคะ ผู้ปกครองจะเก็บเอาต้น กระดุมทอง ไปทำอะไรหรือคะ?”

“ผมจะเอาไปตาก แล้วต้มให้แม่ดื่มครับมิส แม่ผมเป็น โรคเบาหวาน ต้มน้ำดอกกระดุมทองกินแล้ว อาการดีขึ้นมากเลยครับ

ต้นกระดุมทองในโรงเรียนนี่ปลอดภัยครับ แต่ถ้าเป็นต้นที่ขึ้นอยู่ตามข้างทางนี่ไม่ไหว ไม่รู้ว่าใครเดินเหยี่ยบอะไรมาบ้าง บางทีก็อาจมีหมามาฉี่ไว้ ก็ได้”

นั่นนะซิ แล้วของในโรงเรียนนะฟรีด้วยละ มิสเอคิดในใจ แต่ก็ได้แต่เตือนเขาไปว่า ผู้ปกครองน่าจะแค่ตัดไปนะคะ ไม่มีใครหวงก็จริงแต่การดึงทั้งรากมันก็ทำให้สวนไม่สวย ผู้อำนวยการมาเห็นเข้า จะว่าเอาได้

ตัวผู้ปกครองก็ยังต้องมาเก็บอีกหลายๆครั้ง ปล่อยให้ต้นไม้มีชีวิตอีกนานๆไหมคะ ตัดไปแต่พอใช้ เขาก็รับปากกับมิสนะ แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะลืม

แต่ที่แน่ๆ มิสเอได้ความรู้ใหม่กลับบ้านค่ะ น้ำต้มกระดุมทองรักษาโรคเบาหวานได้

กระดุมทอง มีสรรพคุณเป็นสมุนไพร ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

เช้าวันต่อมา ก่อนจะไปสอน มิสเอก็เข้าค้นคว้าใน Google เสียหน่อยว่าตกลงมันกินได้จริงหรือเปล่า
ตามข้อมูล ทางแพทย์แผนปัจจุบัน ยังไม่ได้ให้การยอมรับต้นกระดุมทองมากนักคะ

แต่ทางแพทย์แผนโบราณและแพทย์แผนจีนนั้น ถือได้ว่าต้นกระดุมทองนี้มีสรรพคุณทางยาที่สามารถช่วยรักษาโรคเบาหวาน โรคหัวใจและความดันได้เป็นอย่างดี

กระดุมทองช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดโรคต่างๆที่เกี่ยวเนื่องกับ ระดับน้ำตาลในเลือด ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน

สำหรับสมุนไพรกระดุมทอง นิยมทำเป็น “ชาดอกกระดุมทอง” ค่ะ โดยการนำต้นกระดุมทอง หั่นตากแห้ง ต้มกับน้ำให้เดือด นานประมาณ 3 – 4 นาที จนน้ำมีสีเหลืองอ่อนๆ

กรองน้ำชาใส่ขวดทิ้งให้เย็น แล้วแช่ตู้เย็นไว้ดื่มแทนน้ำ เป็นชาดอกไม้ (ไม่ควรต้มทิ้งไว้ในหม้อเพื่อรินดื่มแต่ละครั้ง เพราะจะเกิดการหมักบูดทำให้ท้องเสียได้)

เมื่อได้ข้อมูลทั้งหมดแล้ว มิสเอก็กลับบ้านไปทดลองทำตามขั้นตอนคะ โดยการตัดต้นกระดุมทอง มาล้างให้สะอาดแล้วหั่นเป็นท่อนๆ ตากให้แห้ง แล้วนำมาต้มแบบสูตรเขาเป๊ะ ผลที่ได้คือน้ำชาสมุนไพรที่มีรสชาติขมเหมือนดื่มชาเห็ดหลินจือ หรือน้ำมะระต้ม

นอกจากนั้นกลิ่นเหม็นเขียวของชาดอกกระดุมทอง ยังโชยกลิ่นอบอวนไปทั่ว มันคือการกินยาสมุนไพรชัดๆ แล้วแบบนี้คนในบ้านมิสเอ มีหรือคะ ที่จะยอมกินกัน

เทคนิคการทำ “ชาดอกกระดุมทอง” ให้ดื่มง่ายขึ้นกว่าเดิม

เมื่อต้มกระดุมทองแบบเดี่ยวๆ แล้วดื่มยาก เราก็ต้องหาตัวช่วย การทดลองทำชาดอกกระดุมทอง ครั้งที่สอง สาม สี่ จึงเกิดขึ้นในครั้งต่อๆมา 

มิสเอก็จะต้มพร้อมกับ ดอกเก๊กฮวย ใบเตย หรือ ดอกกระเจี๊ยบคะ มันดับกลิ่นได้ดีกว่าเดิม ทำให้มิสเอ ตระหนักเลยค่ะว่าทำไมคุณตัน ที่ทำน้ำชาอิชิตันขาย จึงทำน้ำผสมสมุนไพรหลายๆอย่างในน้ำขวดเดียวกัน เหตุผลง่ายๆก็คือสมุนไพรบางอย่างมีประโยชน์ก็จริง แต่กลิ่นมันไม่ชวนดื่มเสียจริงๆ

อีกข้อสรุปหนึ่งก็คือ ในแต่ละครั้งไม่ต้องทำเยอะนะคะ ทำแค่ครั้งละ 7-8 ต้นก็พอ การที่นำต้นกระดุมทอง มาตากแดดเก็บไว้นานๆ ก็ใช่ว่าจะปลอดภัย ถ้าเราเก็บไว้ไม่ดีเชื้อราก็เกิดขึ้นได้ พออยากทานก็ค่อยตัดมาทำดีกว่า

แต่ที่แน่ๆเราควรหาต้นกระดุมทองมาปลูกติดบ้านไว้ก็ดีนะคะ ปลูกง่ายค่ะ ปักชำกิ่งไว้ก็ขึ้นค่ะ นอกจากจะทำให้สวนของคุณมีภูมิทัศน์ที่สวยงามแล้ว เรายังมีสมุนไพรที่ทำเป็นน้ำชาดื่มเปลี่ยนบรรยากาศได้อีกด้วย