เมนูดอกไม้กินได้ ดอกกุยช่าย ดอกไม้กวาด..

ดอกกุยช่าย หรือ ดอกไม้กวาด ดอกไม้กินได้ อร่อยรสชาติดี มีสรรพคุณทางสมุนไพร ได้คุณค่าทางโภชนาการ มีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย

เมื่อเริ่มแรกของการเขียนบทความเกี่ยวกับดอกไม้กินได้ ให้เป็นรูปเป็นร่าง มิสเอจะสรรหาข้อมูลเกี่ยวกับดอกไม้ชนิดต่างๆ ว่าอะไรกินได้ อะไรกินไม่ได้ แล้วก็พาตัวเองไปเด็ดดอกไม้ตามสถานที่ต่างๆ มาชิมรสชาติว่าจะเอาไปทำอะไรได้บ้าง?

เพราะตามที่รู้มา ส่วนมากเขาก็เอาดอกไม้มาชุบแป้งทอด เอาดอกไม้มายำ หรือ แกงส้ม เพราะส่วนมากดอกไม้จะมี รสชาติจืดขมผสมฝาด อีกไม่นานมิสเอคงหมดมุขเขียนบทความแน่ๆ เพราะฉะนั้นในตอนนี้มีเวลาก็คิดเมนูแปลกๆไปก่อน ส่วนเมนูดอกไม้ชุบแป้ง ต้มจืด ต้มยำมีแน่ๆ

ดอกกุยช่าย ผัดก็ได้ กินสดก็ดี ขนมกุยช่าย ยิ่งช๊อบ ชอบ

ด้วยความที่คิดหาแต่เมนูดอกไม้แปลกๆ มิสเอก็หลงลืมไปว่า มีดอกไม้อีกมากมายหลายชนิดที่เรานำเขามาทำกับข้าว กันอยู่แล้ว อร่อยแล้วก็ถูกปากมากด้วย อย่างเช่น เมนูนี้เลยคะ “ผัดดอกไม้กวาด(ดอกกุยช่าย)กับกุ้ง”

ที่จริงผัดดอกไม้กวาดกับตับก็อร่อยนะคะ แต่เดี๋ยวนี้ มิสเอไปสั่งกับข้าวที่ใส่ตับนอกบ้านที่ไรเหม็นคาวทุกทีเลย พาให้ไม่ชอบกินตับไปเลย ที่จริงมิสเอก็มีเคล็ดลับในการทำให้ตับ ลดกลิ่นคาวลงได้นะคะ ง่ายๆค่ะ หลังจากที่ซื้อตับมา ให้เราล้างตับให้สะอาด ตัดเป็นชิ้นๆแล้วเอาผ้าขาวบางพันตับแต่ละชิ้นทิ้งไว้สัก 4 – 6 ชั่วโมง เป็นการซับเลือดที่อยู่ในตับ ขจัดความคาวได้ดีทีเดียว ตอนปรุงก็อย่าทำให้เนื่อตับ สุกจนเกินไป ตับจะมีแข็งกระด้างไม่ชวนรับประทาน

คนส่วนใหญ่นิยมรับประทานกุยช่ายแบบสด ๆ กับก๋วยเตี๋ยวผัดไทยหรือข้าวผัดหรือนำมาปรุงอาหาร เช่น ผัดดอกกุยช่ายกับเนื้อสัตว์ต่างๆ รวมทั้งสามารถนำมาทำเป็น “ขนมกุยช่าย” ที่เราชอบรับประทานกันอีกด้วย

ดอกกุยช่าย ดอกไม้กวาด มีสรรพคุณเป็นสมุนไพรรักษาโรคได้

นอกจากรสชาติที่หอมหวานอร่อยแล้ว กุยช่ายยังมีสรรพคุณทางสมุนไพรในการรักษาโรค เช่น แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม และแก้ท้องผูก โดยใช้ใบสดตำให้ละเอียดคั้นเอาแต่น้ำดื่ม หรือนำไปผัดรับประทาน เพราะกุยช่ายมีใยอาหารมาก จึงช่วยกระตุ้นให้ลำไส้บีบตัวได้ดี

แก้อาการฟกช้ำ ใช้ใบสดตำละเอียด พอกบริเวณที่เป็น บรรเทาปวดและแก้อาการห้อเลือดได้ แก้อาการปัสสาวะกะปริบกะปรอย ใช้เมล็ดแห้งต้มรับประทาน รักษาโรคหูน้ำหนวก ใช้น้ำที่คั้นได้จากใบสดทาในรูหู

ส่วนสารอาหารที่ดีมีประโยชน์ในกุยช่ายมีมากมาย ดร.อุรุวรรณ แย้มบริสุทธิ์ นักวิจัยทางด้านโภชนาการ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ความรู้ว่า สารอาหารที่เด่น ๆ ในกุยช่าย มี 3 ตัว ได้แก่ วิตามินเอ ช่วยในการมองเห็น ซึ่งวิตามินเอเป็นส่วนประกอบของสารอาหารจอตา เซลล์เยื่อบุต่าง ๆ และสร้างภูมิคุ้มกันไม่ให้เจ็บป่วย ธาตุเหล็ก ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง และเป็นส่วน ประกอบของฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง ซึ่งทำหน้าที่ในการนำออกซิเจน จากปอดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่าง กาย และช่วยขจัดก๊าซคาร์บอนได ออกไซด์ออกจากร่างกาย

ยิ่งไปกว่านั้นยังพบว่ามีสารอาหารต่าง ๆ ที่มีคุณค่าทางโภชนาการต่อร่างกายโดยเฉพาะคุณแม่ที่ต้องให้น้ำนมแก่ลูก เพราะมันอุดมไปด้วยเหล็ก ฟอสฟอรัสและแคลเซียม รวมทั้งมีสารต่อต้านปฏิชีวนะ ซึ่งมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคและมีฤทธิ์ร้อนช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย จึงเหมาะที่จะรับประทานในหน้าหนาว และหน้าฝนที่มีอากาศชื้น

ดอกกุยช่าย เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ได้ด้วยนะ อิอิ

กลิ่นของกุยช่ายจะมีกลิ่นฉุนของน้ำมันหอมระเหย คล้ายกลิ่นของพวกกระเทียม เนื่องจากมีสารประกอบพวกกำมะถัน จึงมักจะมีสรรพคุณช่วยทางด้านสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งสรรพคุณทางยาจีนเชื่อกันว่า จะช่วยรักษาอาการไร้สมรรถภาพทางเพศ ที่มีอาการหลั่งอสุจิเร็ว หลั่งอสุจิแบบไม่รู้ตัว ได้โดยไม่ต้องพึ่งพายาแก้โรคหย่อนสมถรรภาพทางเพศ ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน

ว๊าว…ว๊าว…ว๊าว แค่สรรพคุณสุดท้ายก็เพียงพอแล้วที่ มิสเอจะแนะนำให้พวกเราหันมากินดอกไม้ที่มีกลิ่นฉุน แต่มากไปด้วยคุณประโยชน์ อย่างเช่น “ดอกกุยช่าย” ชนิดนี้กันนะคะ